สวัสดีค่ะ พี่น้องทุกท่าน เนื่องด้วย สคส จัดเวทีภาคีจัดการความรู้ครั้งที่ 1 เมื่อ 22 กพ 53งิ้มกะพี่แดงได้รับโอกาสเป็นตัวแทนทันตแพทย์ไปร่วมด้วย แต่ด้วยภาระทีสำคัญยิ่งต่อวิชาชีพของพวกเราในเรื่อง work point ที่จัดประชุนตรงกัน พี่แดงเลยแบ่งร่างไม่ได้ งิ้มบอกพี่แดงว่าจะมาเล่าให้อ่านว่าไปได้อะไรมา เลยถือโอกาสส่งให้พี่น้องด้วยเลยค่ะ เห็นว่าจะมีจัดอีกโดยเปลี่ยนผู้เข้าร่วมเวที
พี่แดงคะ
วันนั้น เขาก็ให้แต่ละคนแนะนำตัว แล้วแบ่งกลุ่มย่อย เล่าว่าไปทำอะไรเกี่ยวกับ KM มาบ้าง มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรเกิดขึ้น ผลสำเร็จปลายทางเป็นอย่างไร และใช้กลยุทธ์อะไร
บางองค์กรเช่นไฟฟ้าแม่เมาะก็ทำ KM เอง บางแห่งเช่นพวกเราในนามแพทย์ชนบท สคส ก็ช่วย
แต่ละกลุ่มจะมีคนของ สคส ผู้รู้เรื่องของคนทั้งกลุ่ม คอยพูดสรุปประเด็น สรุปเรื่อง (ที่กลุ่มก็คือ อจ.อ้อม) โดยมีคนของ สคส พิมพ์ my map ให้ตัวแทนแต่ละกลุ่มใช้ออกไปเล่าเรื่องของทุกคนในกลุ่ม เน้นเอาแค่สรุปกลยุทธ์ คนในกลุ่มก็เล่าๆกันไป ให้ความเห็น มีปิ๊งแว๊บว่าจะเอาไปลองบ้าง กลุ่มงิ้มประกอบด้วยตัวแทนจากเกษตร กรมอนามัย ไฟฟ้าแม่เมาะ PTTAR โรงงานเฟอร์นิเจอร์ บริษัททีปรึกษา
ได้ไอเดียดีๆมาหลายอย่างค่ะ เช่น
PTTAR
ผู้ประสานงานกลางต้องอึด และอดทนอย่างช้าง
ใช้กลยุทธ์ 5 ช้าง ต้องเชื่อใจ แชร์ (Share) ใช้ โชว์ ชม (จัดให้มี best practice sharing ซึ่งเมื่อมีการนำไปใช้ ต้องชมทั้งคนคิดและคนใช้)
OM คือเส้นทางแห่งรัก ประกอบด้วย outside , inside และภาคี
ต้องมีการเขย่าผู้บริหาร สร้างระยะไม่ปลอดภัยให้ผู้บริหารรู้สึกจะได้ทำอะไร จะเกิดการพัฒนา (ถ้าผู้บริหารรู้สึกดี ปลอดภัย จะไม่เกิดการพัฒนา)
ควรมีการทำ outside in เชิญคนนอกเข้ามาให้คนในรู้จักโลกภายนอก
Top mangement ให้รู้แค่ What is
Middle management ต้อง open heart open mind open view
กรมอนามัย
ใช้ เชียร์ ชี้ ชม (ชี้ให้เห็นงานที่จะต่อยอด จะพัฒนา ให้เกิดการหมุนเกลียว โดยใช้คนนอก)
จับผู้บริหารที่แข็งสุด กับอ่อนสุดให้ได้ (พวกกลางจะมาเอง) เน้นการสื่อสารกับผู้บริหารบ่อยๆ
ประเมินตนเองใช้ ธารปัญญา
เอา mapping , empower visit มาใช้แทนการนิเทศ
ไฟฟ้าแม่เมาะ
เน้นที่การแลกเปลี่ยนเรีัยนรู้ (ลปรร)
มีการถ่าย vdo โดยดูแลให้ทุกคนดูสวย หล่อ ให้เขารู้สึกว่าเป็น somebody ในองค์กร
พบว่าความรู้ของ expert ช่วยแก้ปัญหา ไม่ได้เท่าของผู้ปฏิบัติ
ลปรร ควรใช้ทั้ง tacit และ explicit
ลปรร ยังไม่ใช่คำตอบสุดท้าย ถ้าจัดการกับ KA ไม่ดี
เกษตร
ใช้ป่าล้อมเมืองได้ผล
เริ่มจากกลุ่มเล็กนำร่อง 9 จังหวัดแล้วขยาย
KMลงถึงเกษตรกร
ผู้บริหารเฉยๆก็คือสนับสนุน (ไม่ขวางก็ดีแล้ว)
มีการรายงานผลผู้บริหารตลอดเวลาแม้ไม่ได้สั่ง เช่น เกษตร อำเภอไหนได้รับคำชมอะไร ลงข่าวที่ไหน ก็จะแจ้ง ผู้บริหารให้ทราบทันที
เน้นคณอำนวย สร้างคุณลิขิต
เฟอร์นิเจอร์
แปลงKM เป็นเรื่องเล่าเร้าพลัง
ผมมีเรื่องอยากเล่า มีการสาธิตให้ดู(วิธีทำ เฟอร์นิเจอร์) ทำให้คนเกิดความภูมิใจ มีส่วนร่วม มีคุณค่า ให้รางวัลด้วยการพาไปดูงาน
ทำ spot โฆษณา ฉายที่โรงอาหาร
ชื่นชม คนดี เอาคนดีมาประชาสัมพันธ์
แทรก KM ใน Morning Talk
ทำ KM ไม่เสียเวลา คุยกันสนุกสนาน
แล้วก็ถึงจุดที่เรียกประชุม นั่นคือ ล้อมวงทั้งหมด ให้เสนอความคิดว่าจะทำ KM เพื่อชาติอย่างไรดี
โดยให้คิดแล้วเขียนใส่กระดาษคนละประโยค ส่วนใหญ่ก็เป็นประมาณจัดวันนัดแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ไปดูองค์กรที่ทำไปได้เยอะแล้ว
มีพี่ซุ้ย สุรพงษ์ ศุภจรรยา ผู้บริหารของ NOK Precision Component เขียนแนวคิดลง Flip chart
ชอบไอเดีย เลยถ่ายรูปมาให้พี่ดูด้วย
เสนอให้คิดถึง
KM for Improvement
KM for Productivity
KM for Transformation
พูดเรื่องปูว่าเปลี่ยนกระดองเพื่อโตขึ้น นั่นคือธรรมชาติจะต้องมีการเสียสมดุลย์เพื่อพัฒนาสู่สิ่งที่ดีกว่า
KM เป็นเสมือนต้นไม้ที่มีชีวิต
ให้คิดถึง
Fix Organization vs Dynamic Organization
Make things vs Make Knowledge
High control vs High Trust
Individual decision vs Team decision
Individual reward vs Team reward
มีกรอบ vs ไร้กรอบ
ปริมาณมาก vs ปริมาณน้อย มีคุณภาพ
วัดตลอดเวลา vs ไม่วัดแต่รู้ว่าดี
Differrent CoP
Knowledge Monentum เปลี่ยนจุดหมุน เปลี่ยนวิธีคิด
ดีก็รักษาไว้ อยากดีกว่าก็พัฒนาแล้วสร้างสรรค์
เสนอให้เขียนและถ่ายรูปแนวคิดและเป้าหมาย before and after ดูว่าผลเป็นอย่างไร เริ่มด้วยด้วยว่าทำไปทำไม
ยกตัวอย่าง เวลาคุย อาจเริ่มจากถามกันว่า หัวใจของ office คืออะไร เสียงเจี๊ยวจ๊าว หรือ ความสว่าง หรือความสวยงาม
เสนอให้มี Opportunity for improvement
แต่ละองค์กรควรมีทีม FA และทีมสนับสนุน
100 รู้ไม่เท่าลงมือทำ
ไม่ควรติดตำรา แต่ควรติดตามและติดสังเกต
อะไรที่ทำแล้วฝืนใจ = ผิดธรรมชาติ ให้กลับทันที
KM ทำแล้วต้องสนุก มีความสุข สอดคล้องเป้าหมาย ให้เริ่มจากเรื่องง่ายสุด
ควรมี cross KM
มีถามว่า ทำไงให้ดอกไม้สดอยู่ได้นาน หลายคนก็ตอบเรื่องใส่ อะไรซักอย่างลงไป
พี่เขาก็เล่าว่า บางครั้งไม่ต้องใส่อะไรลงไป แต่เอาดอกไม้ไปจุ่มน้ำร้อน (แบบอุ่นๆพอ) แล้วก็ไปจุ่มน้ำเย็น ตัดแต่ง ดอกไม้จะดูดน้ำไป fulfill ทำให้สดอยู่ได้นาน
มีถามว่าเวลาถูกงูกัด เราควรทำอะไร บางคนไปตีงู ทำให้งูตาย ตัวเองก็ตายด้วย
ความจริงควรรีบห้ามพิษก่อน นั่นคือเมื่อมีปัญหาให้มองและจัดการที่ process ก่อน ไม่ใช่ไปจัดการที่คนก่อน ซึ่งสุดท้ายก็จะไปถึงคนเอง
(รู้สึกเสียดายไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกับพี่ซุ้ย เลยไม่ได้ฟังเรื่องของพี่เขา มีคนเล่าว่าที่ NOK เก่ง และดีหลายเรื่องมาก และยินดีต้อนรับคนไปดูงาน มากด้วย)
ไปแล้วรู้สึกคุ้มค่าดีค่ะ ได้เพื่อนใหม่อีกหลายคน มี สตง.ด้วย ^_^
ถ้าเป็น อบ / ปูน / กล้วย / หล้า / เยา มา คงมีเรื่องเล่าเด่นๆของทันตให้กลุ่มฟังกันสนุกสนานแน่เลย แฮะๆ ไม่อยากบอก ตัวเองลืมไปแล้วว่าไปทำเรื่องอะไรไว้ กลายเป็นอจ.อ้อมพูดเล่าให้กลุ่มฟังว่าทันตแพทย์ไปทำอะไรกัน แล้วอจ.ก็เล่าให้กลุ่มฟังว่าประทับใจกลุ่มทันตมาก เล่าว่าพวกเราสามารถเข้าใจ OM ภายใน 15 นาที ซึ่งเร็วมาก
ขอจบรายงานเพียงเท่านี้นะคะ
สวัสดีค่ะ
////////////////////////////
^_^ -@_@- ^_^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น